News

หลาย ๆ คนอาจจะกำลังเจอกับปัญเทปปิดกล่องเด้ง หรือตัวเทปกาวไม่เหนียวมากพอ เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงลองเปลี่ยนหลายยี่ห้อแล้วแต่ก็ยังไม่หายสักที ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะไม่ได้เป็นที่ย้อนั้น ๆ แต่เป็นเพราะค่าความเหนียวของกาวนั้นไม่สูงมากพอที่จะติดลงบนกล่องที่มีความหนามาก และมีน้ำเยอะ ซึ่งการเลือกซื้อเทปกาวปิดกล่องก็มีหลากหลายปัจจัย วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปเลือกซื้อเทปกาวปิดกล่องฉบับมือโปรกัน! นอกจากนี้เราจะขอแนะนำเทปกาวปิดกล่องแต่ละชนิดว่าไอเทมไหนขายดี นิยมใช้กันสุดๆ ตามไปดูกันเลย!

HOW TO เลือกซื้อเทปกาวปิดกล่อง

1. ความหนาของเทป – สิ่งแรกที่ควรนึกถึงเวลาซื้อเทปกาวปิดกล่อง คือความหนาของเทป หรือค่าไมครอน (Micron) หรือ µm หน่วยวัดความหนาของเนื้อฟิล์มรวมกับกาว โดยถ้าหากค่าไมครอนสูงจะยิ่งทำให้ตัวเทปกาวมีความแข็งแรง และสามารถรับน้ำหนักของกล่องได้มากขึ้น ซึ่งถ้าหากนำไปใช้งานทั่วไป น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม เราขอแนะนำให้เลือกความหนาประมาณ 43 ไมครอน แต่ถ้าหากนำไปใช้ปิดกล่องที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม แนะนำให้เลือกความหนาของเทปตั้งแต่ 45 ไมครอนเป็นต้นไป 
2. ชนิดของกาว – อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยคือชนิดของกาว ซึ่งถ้าคุณนำเทปปิดกล่องไปใช้งานทั่วไป ในอุณหภูมิห้อง เราแนะนำให้คุณเลือกใช้เทปปิดกล่องชนิดกาวน้ำ และกาวยาง โดยกาวยางเหมาะกับงานที่ใช้เครื่องแพ็คบรรจุภัณฑ์ จะไม่ทำให้เครื่องติดขัด แต่ถ้าหากคุณต้องการแพ็คของแช่เย็น แช่แข็ง เทปปิดกล่องทั่วไปอาจจะติดไม่อยู่ เราแนะนำให้เลือกเป็นกาวยาง หรือกาวฮอทเมลท์แทน เพราะกาว 2 ชนิดนี้สามารถใช้งานในอุณภูมิแช่เย็น-แช่แข็งได้ 
3. ความกว้างของเทป – ขึ้นอยู่กับขนาดของกล่องที่คุณใช้แพ็คของ โดยถ้าหากคุณใช้กล่องขนาดเล็ก หน้าเทปหน้ากว้างขนาด 1 นิ้วก็อาจจะพอแล้ว แต่ถ้าใช้ปิดกล่องขนาดขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกใช้เทปที่มีหน้ากว้างขนาด 2 นิ้ว หรือใครจะเลือกใช้ขนาด 2 นิ้วเลยก็ได้เช่นกัน เพราะเป็นขนาดมาตรฐานที่สามารถใช้ปิดกล่องเล็ก และใหญ่ได้ 

เทปปิดกล่องมีกี่ชนิด?

ถ้าหากพูดถึงเทปปิดกล่อง หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงเทป OPP สีใส, สีน้ำตาล เป็นอย่างแรก แต่จริง ๆ แล้วเทปปิดกล่องมีหลายแบบ เราตามไปดูกันเลยดีกว่า

เทป OPP ทุกคนคุ้นเคยกับเทป OPP กันอยู่แล้ว ซึ่งเทป OPP ผลิตจากฟิล์ม Oriented Polypropylene สำหรับเนื้อกาวก็จะมีหลากหลายชนิดอย่างที่กล่าวไปข้างต้น โดยเทป OPP มีหลายสีให้เลือกทั้งสีสุดเบสิกอย่างสีใส, สีน้ำตาล และสีสันสดใสอย่างสีแดง, สีเขียว, สีน้ำเงิน เป็นต้น นอกจากนี้เทป OPP ยังนิยมนำไปพิมพ์โลโก้แบรนด์ หรือเทปพิมพ์โลโก้นั่นเอง เทป OPP มีราคาค่อนข้างถูกที่สุด จึงทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก	เทปกระดาษคราฟท์ ผลิตจากกระดาษคราฟท์ ที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาล โดยเนื้อกระดาษจะถูกเคลือบด้วยซิลิโคน (Silicone) จึงทำให้เทปกระดาษคราฟท์สามารถทนต่อความชื้นได้ดี สามารถใช้ในอุณหภูมิติดลบได้ถึง -20 °C ฉีกขาดได้ง่ายด้วยมือ รับน้ำหนักได้สูงภึง 30 กิโลกรัม แต่เทปกระดาษคราฟท์ชนิดนี้ไม่สามารถพิมพ์แบรนด์โลโก้ได้ เพราะถูกเคลือบด้วยซิลิโคน นอกจากนี้เทปกระดาษคราฟท์ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์
เทปไบโอ หรือเทปกระดาษคราฟท์รักษ์โลก มีลักษณะคล้ายกับเทปกระดาษคราฟท์ (Kraft Tape) โดยผลิตจากกระดาษคราฟท์ แต่ไม่ถูกเคลือบด้วยพลาสติกโพลีเอทิลีน (Non-Polyethylene) และใช้กาวยาง (Rubber Solvent) เพื่อสามารถย่อยสลายได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทปไบโอสามารถใช้ในอุณหภูมิติดลบได้ถึง -20 °C สามารถฉีกขาดได้ง่ายด้วยมือเช่นกัน สำหรับใครที่ต้องการพิมพ์โลโก้ลงบนเทปชนิดนี้ก็สามารถทำได้